นกชนหิน
นกชนหิน
นกชนหิน ชื่อวิทยาศาสตร์ Rhinoplax vigil (Forster, 1781) ถือเป็นสัตว์โบราณและเชื่อกันว่ามีความเก่าแก่ถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของนกเงือกแห่งเอเชียที่ยังคงมีชีวิตอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
โหนกบนหัวมีน้ำหนักประมาณ 11% ของน้ำหนักตัว
ใช้สำหรับต่อสู้แบบเอาหัวชนกันระหว่างตัวผู้ โหนกนี้ต่างจากของนกเงือกชนิดอื่น
ๆ ตรงที่มีลักษณะทึบตันแทบทั้งชิ้น ชาวปูนันเชื่อว่านกชนหินตัวใหญ่เป็นผู้พิทักษ์แม่น้ำที่แบ่งกั้นระหว่างความเป็นและความตาย
อาศัยในป่าดงดิบ และกระจายพันธุ์ตั้งแต่ทางตอนใต้ของไทย บางส่วนของพม่า
เรื่อยไปจนถึงมาเลเซีย และอินโดนีเซีย

ลักษณะทั่วไป
นกชนหิน
ถือเป็นนกเงือกชนิดหนึ่งที่มีสายพันธุกรรมเก่าแก่ยาวนานถึง 45 ล้านปีมาแล้ว มีลักษณะเด่นกว่านกเงือกชนิดอื่น
ๆ ตรงที่สันบนปากมีขนาดใหญ่และหนาเนื้อในสีขาวตันคล้ายงาช้าง
นกชนหินมีจะงอยปากที่ยาวและมีขนหางพิเศษคู่หนึ่ง ซึ่งจะงอกยาวเลยขนหางเส้นอื่น ๆ
ออกไปมากถึง 50 เซนติเมตร แลเห็นเด่นชัด
นกตัวผู้มีขนาดลำตัวยาวจากปลายจะงอยปากถึงปลายขนหาง 127 เซนติเมตร
ขนลำตัวสีน้ำตาลเข้ม ใต้ท้องสีขาว หางสีขาวมีแถบสีดำพาดขวาง
และปลายปีกสีขาวเป็นแถบกว้างและไม่มีขนปกคลุมใต้ปีก จะงอยปากตอนโคน
และบนสันสีแดงคล้ำ ตอนปลายสีเหลืองเรื่อๆ บริเวณลำคอที่ไม่ขนในนกตัวผู้จะมีสีแดงคล้ำ
ส่วนนกตัวเมียจะมีสีฟ้าซีดหรือสีฟ้า แต่นกวัยอ่อนเพศผู้ ลำคอจะมีสีแดงเรื่อๆ
และนกเพศเมียหนังส่วนนี้จะเป็นสีม่วง นอกจากนี้สันบนจะงอยปากจะมีขนาดเล็กกว่า
และขนหางยังเจริญไม่เต็มที่ มีลักษณะสั้นกว่านกโตเต็มวัย

อาหาร
นกชนหิน
อาหารหลัก ได้แก่ ลูกไทร ส่วนอาหารจำพวกสัตว์ นอกจากแมลงต่าง ๆ
แล้วนกชนหินยังล่าสัตว์อื่น ๆ เช่น กิ้งก่า กระรอก และนกด้วย
ลักษณะนิสัย
ปกติจะหากินในระดับยอดไม้
กินผลไม้เป็นส่วนใหญ่ เช่น ลูกไทร บางครั้งพบว่ากินสัตว์อื่น ๆ เช่น กิ้งก่า กระรอก
และนกอีกด้วย มักจะอยู่โดดเดี่ยวหรืออยู่เป็นคู่
ฤดูผสมพันธุ์เริ่มราวปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทำรังในต้นไม้สูง
และใช้วัสดุปิดปากรังเช่นเดียวกับนกเงือกชนิดอื่น ๆ
โดยที่รังของนกชนหินจะไม่เหมือนกับนกเงือกชนิดอื่น ๆ เพราะจะหารังเฉพาะที่อยู่บนตอไม้หรือเข้าได้ทางด้านบนเท่านั้น
เพราะส่วนหัวที่ตันและหางที่ยาว อีกทั้งนกชนหินจะเลี้ยงลูกนานกว่านกเงือกชนิดอื่น ๆ
คือ 5 เดือน
โดยที่แม่นกจะอยู่กับลูกในโพรงตลอดเวลา ไม่มีการพังโพรงออกมาก่อน

นกชนหินมีเสียงร้องที่ไม่เหมือนนกชนิดอื่น
ๆ โดยนกตัวผู้จะร้องติด ๆ กันดัง
"ตู๊ก…ตู๊ก" ทอดเป็นจังหวะ
ร้องติดต่อกันยาวเสียงร้องจะกระชั้นขั้นตามลำดับ
เมื่อจะสุดเสียงเสียงร้องจะคล้ายเสียงหัวเราะประมาณ 4-6 ครั้งเมื่อตกใจจะแผดเสียงสูงคล้ายเสียงแตร
และเมื่อต่อสู้กันเพื่อแย่งอาณาเขต จะใช้ส่วนหัวที่หนาชนกัน จึงได้ว่าว่า
"นกชนหิน" บางครั้งอาจจะบินชนกันในอากาศ
การทำรังและการเลี้ยงลูก
นกชนหิน จะเริ่มปิดปากรังเดือนมีนาคม-เมษายน ลูกนกออกจากรังราวเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม พบลักษณะรังจะพิเศษกว่านกเงือกชนิดอื่น ๆ คือ รังจะเป็นปุ่มปมยื่นออกมา ทำรังในต้นตะเคียน กาลอ ตอแล พฤติกรรมการเลี้ยงลูกเป็นแบบ พ่อนกเลี้ยงเพียงตัวเดียว โดยพ่อนกจะหาอาหารมาเลี้ยงลูกนกและแม่นก และจะเลี้ยงลูกได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น