ไรน้ำนางฟ้า ( Fairy Shrimps )
เป็นสัตว์น้ำจำพวกกุ้งที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด
ซึ่งพบในแหล่งน้ำธรรมชาติมานานแล้ว โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชาวบ้านเรียกสัตว์ชนิดนี้ว่า ตัวเหนี่ยว แมงอ่อนช้อย แมงหางแดง แมงแงว แมงน้ำฝน โดยสามารถนำไรน้ำนางฟ้ามาประกอบอาหารได้
แต่ก็รู้จักกันอยู่ในวงจำกัด
เนื่องจากไรน้ำนางฟ้ามีวงชีวิตที่ไม่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
และยังเป็นอาหารที่สัตว์น้ำต่าง ๆ ชอบกินรวมทั้งมนุษย์
ทำให้พบเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ในแหล่งน้ำธรรมชาติ
นักวิชาการของกรมประมงได้เริ่มดำเนินการศึกษาวิธีการเพาะเลี้ยงไรน้ำนางฟ้ามาตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2530 โดยเรียกไรชนิดนี้ ว่า อาร์ทีเมียน้ำจืด เนื่องจากเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางการประมง
คือเป็นอาหารมีชีวิตที่สำคัญต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
โดยเฉพาะการอนุบาลลูกปลาขนาดเล็กและใช้เลี้ยงปลาสวยงาม
แต่ไม่ประสบผลสำเร็จในการเพาะเลี้ยงไรน้ำนางฟ้าเท่าที่ควร
เพราะไข่ของไรน้ำนางฟ้ามีระยะในการพักตัว ทำให้ดำเนินการฟักไข่ค่อนข้างยากมาก ในปี
พ.ศ. 2536 ศ.ดร. ละออศรี เสนาะเมือง และทีมงาน
จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ได้ค้นพบไรน้ำนางฟ้าชนิดใหม่ของโลก และดำเนินการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับชีววิทยาและวิธีการเพาะเลี้ยงไรน้ำนางฟ้าอย่างละเอียดมากขึ้น
ทำให้แนวทางการเพาะเลี้ยงไรน้ำนางฟ้าแจ่มใสขึ้น
มีเกษตรกรและผู้เลี้ยงปลาสวยงามจำนวนมากให้ความสนใจและทดลองเลี้ยงไรน้ำนางฟ้า
แต่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ยังไม่ประสบผลสำเร็จในการเลี้ยงไรน้ำนางฟ้าให้ได้ปริมาณมาก
และเลี้ยงอย่างต่อเนื่องได้
เนื่องจากยังมีปัญหาในเรื่องของการฟักตัวของไข่ไรน้ำนางฟ้าที่ยังค่อนข้างต่ำ
และการเตรียมอาหารของไรน้ำนางฟ้าให้เกิดอย่างต่อเนื่องได้
ภาควิชาประมง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ให้ความสนใจในการศึกษาวิธีการเพาะเลี้ยงไรน้ำนางฟ้า ถึงแม้จะไม่ได้รับงบประมาณในการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ก็ตาม แต่ก็พยายามดำเนินการศึกษาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งการศึกษาการเตรียมอาหารที่จะใช้เลี้ยงไรน้ำนางฟ้าในหลายรูปแบบ โดยเน้นไปที่วิธีการเลี้ยง Chlorella เพราะ Chlorella เป็นแพลงตอนพืชขนาดเล็กที่เจริญเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็วทำให้น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว หรือที่เรียกว่า การทำน้ำเขียว ทำให้มีอาหารที่จะใช้เลี้ยงไรน้ำนางฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ทีมงานผู้ดำเนินการศึกษา สามารถเลี้ยงไรน้ำนางฟ้าและดำเนินการรวบรวมไข่ไรน้ำนางฟ้าได้อย่างง่าย ๆ ได้จำนวนมาก และสามารถกระตุ้นให้ไข่เกิดการฟักตัวได้เร็ว โดยมีอัตราการฟักตัวค่อนข้างสูงมาก เป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับฟาร์มปลาสวยงามที่จะผลิตไรน้ำนางฟ้าเพื่อใช้เลี้ยงปลาสวยงามในฟาร์ม หรือผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ที่ต้องการใช้ไรน้ำนางฟ้าเป็นอาหารในการเลี้ยงปลาสวยงามได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุงวิธีการ และการทดลองซ้ำเพื่อให้เกิดความมั่นใจ เมื่อได้ผลเป็นที่แน่นอนแล้วจะได้นำเสนอรายละเอียดต่อไป
นิเวศวิทยาและพฤติกรรม
ไรน้ำนางฟ้าเป็นสัตว์น้ำจืดที่มีถิ่นที่อยู่ค่อนข้างจำกัดและพบเฉพาะในบางฤดูกาล
คือจะพบเฉพาะในช่วงต้นฤดูฝนในแหล่งน้ำธรรมชาติตามแหล่งน้ำท่วม โดยเฉพาะในนาข้าว
ทั้งนี้เนื่องจากเป็นอาหารที่ชื่นชอบของสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ
และไม่มีอวัยวะที่ใช้ในการป้องกันตัว เมื่อเจริญเติบโตจะเคลื่อนที่ในลักษณะหงายท้องว่ายน้ำไปเรื่อย
ๆ ทำให้ถูกปลาหรือสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ จับกินได้อย่างง่ายดาย
ประกอบกับมีวงชีวิตที่ไม่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งไรน้ำนางฟ้าจะมีไข่ระยะพักตัว
หรือที่เรียกว่า cyst เหมือนกับไรน้ำส่วนใหญ่ ไข่ระยะพักตัว หรือ cyst นี้จะถูกปล่อยทิ้งให้แห้งอยู่ตามพื้นแหล่งน้ำที่มีการแห้งลงในช่วงฤดูแล้ง
เช่นในนาข้าว
เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนและมีฝนตกลงมามากพอจนทำให้แหล่งน้ำหรือนาข้าวที่แห้งไปแล้วนั้นมีน้ำขังอยู่พอควร
ไข่ระยะพักตัว หรือ cyst ที่ตกอยู่ในดินก็จะฟักตัวออกมา
และจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยกรองกินแพลงตอนพืชขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในน้ำเป็นอาหาร ใช้ระยะเวลาเพียง 7 - 14
วัน ก็จะเจริญเป็นตัวเต็มวัยและมีความสมบูรณ์เพศ
จากนั้นไรน้ำนางฟ้าจะสามารถแพร่พันธุ์ได้ 2 แบบ คือ แบบใช้เพศ (Sexual reproduction) และ แบบไม่ใช้เพศ (Asexual reproduction) ซึ่งจากการแพร่พันธุ์ทั้ง
2 แบบ
ไรน้ำนางฟ้าเพศเมียสร้างไข่เข้ามาเก็บไว้ในถุงเก็บไข่ที่อยู่บริเวณส่วนท้ายของส่วนอก
ไข่ดังกล่าวจะเป็นไข่ที่มีเปลือกหนา และจะถูกปล่อยออกจากถุงเก็บไข่ภายในเวลา 20 -
24 ชั่วโมง หลังจากนั้นภายในเวลา 4- 6 ชั่วโมง ไรน้ำนางฟ้าเพศเมียจะสร้างไข่ชุดใหม่เข้ามาในถุงฟักไข่ได้อีก
แล้วถูกปล่อยออกไปเช่นเดิมเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีปลา
หรือสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ เข้ามาในแหล่งน้ำแล้วกินไรน้ำนางฟ้าไป
แต่ถ้าหากไม่ถูกสัตว์อื่นกินเป็นอาหาร ไรน้ำนางฟ้าจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 40 - 90
วัน แล้วแต่ชนิดของไรน้ำนางฟ้า
สำหรับไข่ที่ไรน้ำนางฟ้าเพศเมียปล่อยออกมาจากถุงเก็บไข่นั้น
จะตกลงอยู่ที่ก้นแหล่งน้ำโดยจะไม่ฟักตัว
แต่ตัวอ่อนที่อยู่ในไข่ที่ยังมีน้ำขังในแหล่งน้ำจะมีการพัฒนาต่อไปจนเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์
แล้วพักตัวอยู่ภายในไข่ จึงเรียกไข่ดังกล่าวว่า ไข่ระยะพักตัว หรือ cyst ซึ่งไข่ระยะพักตัว หรือ cyst นี้จะต้องพักรอจนแหล่งน้ำนั้นแห้งไปในปีนั้น
แล้วรอจนฤดูกาลใหม่ของปีต่อมาเมื่อแหล่งน้ำได้รับน้ำฝนจึงจะฟักตัวออกมา




ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น